วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ต้มผู้กอง (ต้มผักกาดดองแบบเผ็ด)


อาหารเมนูนี้ไม่ทราบที่มาแน่ชัด เท่าทราบตอนนี้นั้นมีเพียงแค่มีที่มาจากจังหวัดอ่างทอง หน้าตาจะเหมือนกับซี่โครงหมูผักกาดดอง แต่รสชาติจะจัดจ้านเผ็ดร้อนกว่ามากโข แต่อร่อยไม่แพ้กันเลย เรียกได้ว่าอร่อยไปกันคนละแบบ


สูตรอาหารต้มผู้กอง (ต้มผักกาดดองแบบเผ็ด)



สำหรับ 2ที่ใช้เวลาประมาณ 60 นาที
วัตถุดิบต้มผู้กอง (ต้มผักกาดดองแบบเผ็ด)
1. ซี่โครงหมู 400 กรัม2. ผักกาดดอง 1/2 หัวเล็ก3. รากผักชี 2 ราก4. กระเทียม 3 หัว5. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา6. มะนาว 1 ช้อนโต๊ะ7. พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด8. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ9. เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำต้มผู้กอง (ต้มผักกาดดองแบบเผ็ด)
1. เปิดไฟกลางต้มน้ำให้เดือดปุด ๆ ใส่เกลือกับตำรากผักชีกระเทียมพริกไทยให้พอแหลกลงไป ตามด้วยผัดกาดดองหั่นชั้นพอดีคำ ถ้าหนาสไลด์ให้บางลง รอจนน้ำเดือดอีกรอบ ใส่กระดูกหมูลงไป ต้มไฟกลางค่อนข้างอ่อน พอเดือดอีกรอบแล้วช้อนฟองออกให้หมด ปรุงด้วยซีอิ้ว2. ตำพริกพอแหลกใส่ถ้วยบีบมะนาวลงไปบนพริก เมื่อหมูสุกจึงตักใส่ลงไปชิมดูหารสที่ถูกใจ

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ยำไข่ดาว



ยำอีกชนิดที่ทำง่าย แต่มักไม่มีขายตามร้านยำทั่วไป ส่วนผสมไม่ยุ่งยาก รสชาติอร่อย ส่วนผสมหลักที่น่าจะมีเหลืออยู่ในตู้เย็นทุกบ้าน เช่น ไข่ไก่ หัวหอม ต้นหอม มะนาว น้ำ ปลา พริก เพียงถ้าไม่กินไข่แดง เมนูนี้ก็เป็นเมนูมากคุณค่าทางอาหารสำหรับคนวัยทำงาน และไม่อ้วนอีกเมนูเลยทีเดียว

สูตรอาหารยำไข่ดาว


สำหรับ 1-2 ที่
ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

วัตถุดิบยำไข่ดาว

1. ไข่ไก่ 3 ฟอง
2. หัวหอม 1/2 หัว
3. มะเขือเทศ 1 ลูก
4. ต้นหอม 1-2 ต้น
5. คึ่นช่าย 1-2 ต้น
6. พริกขี้หนู 5-15 เม็ด (แล้วแต่ความเผ็ดของพริกและตามความชอบส่วนตัว)
7. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำยำไข่ดาว

1. ตั้งกระทะ ให้ร้อนใส่น้ำมันให้พอกับการทอดไข่ดาว (ครึ่งถ้วยตวง) ทอดให้กรอบทั้งสองด้านนำขึ้นพักไว้ในจานที่รองกระดาษซับน้ำมันไว้
2. ผสมน้ำยำลงในถ้วยผสมด้วย น้ำปลา น้ำตาล มะนาว คนให้ละลาย
3. ซอยหัวหอมบาง มะเขือเทศเอาเม็ดออกซอยบางประมาณครึ่งเซนติเมตร ต้นหอมหั่นท่อน คึ่นช่ายหั่นท่อน ไข่ดาว หั่นชิ้นพอคำ
4. ชิมน้ำยำให้ได้รสที่ต้องการ ใส่ทั้งหมดลงในถ้วยผสม คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักเสริฟ


เชฟศุตม์

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พุดดิ้งญี่ปุ่น Japanese Pudding


ส่วนผสมสำหรับ 5 ถ้วยกลาง
เวลา 3 ชั่วโมง

อุปกรณ์

1. หม้อ
2. ตระกร้อ
3. ไม้พาย
4. มีด
5. ถ้วยแก้ว
6. ชามผสม

ส่วนผสมพุดดิ้งญี่ปุ่น Japanese Pudding

1. นมสดรสจืด 250 กรัม
2. น้ำตาลทราย 20 กรัม
3. เจลาตินแผ่น 6 แผ่น
4. ไข่แดง 1 ฟอง
5. วิปปิ้งครีม 80 กรัม
6. กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา
7. สีชมพู ตามชอบ
8. ดอกไม้ตามชอบ (ดอกซากุระ) ตามชอบ
9. แยมสตรอเบอร์รี่ 300 กรัม
10. สตรอเบอร์รี่สด ตามชอบ

วิธีทำพุดดิ้งญี่ปุ่น Japanese Pudding

1. ใส่น้ำตาล นมสดลงในหม้อ
2. ต้มจนน้ำตาลละลาย
3. นำเจลาตินแช่น้ำจนอ่อนนุ่ม
4. เมื่อน้ำตาลละลายจนหมด เทลงในไข่แดง
5. ค่อยๆเทและใช้ตะกร้อตีไข่ตีจนนมหมด
6. ใส่เจลาตินลงในชามคนจนเจลาตินละลาย
7. พักไว้จนเย็นสนิท
8. หั่นสตรอเบอร์รี่ใส่ในถ้วยที่เตรียมไว้
9. ใส่แยมสตรอเบอร์รี่ นำไปแช่ตู้เย็น 15 นาที
10. เมื่อนมหายร้อน ใสส่วิปปิ้งครีมลงไป
11. ค่อยๆคนจนเข้ากันดี
12. ตักใส่ถ้วยที่ใส่สตรอเบอร์รี่เตรียมไว้
13. นำเข้าตู้เย็น 2-3 ชั่วโมงให้เซ็ตตัว (แล้วแต่ขนาดถ้วย) 
14. นำออกมาตกแต่งตามชอบ
15. เสิร์ฟเย็นๆ


เชฟศุตม์

ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ 149 บาท




ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ เมนูปูนิ่มยอดนิยมอีกหนึ่งเมนู ปูนิ่มที่ทอดจนเหลืองกรอบ นำไปผัดกับพริกหวานสีต่างๆและพริกไทยดำ ผัดจนเข้ากันดีก็จะออกมาเป็นเมนูปูนิ่มสุดแสนอร่อย ได้รสชาติเผ็ดร้อนนิดๆจากพริกไทยดำ รับรองว่าถูกใจหลายๆคนแน่นอนครับ 

• เวลาในการทำ 30 นาที
• ส่วนผสมสำหรับ 3-4 ที่

1. ปูนิ่ม 2 ตัว (400 ก.)
2. ต้นหอม 2 ต้น
3. กระเทียม 3 กลีบ
4. หอมใหญ่ ½ หัว
5. พริกหวาน 3 สี (อย่างละ 30 ก.)
6. พริกไทยดำเม็ด 1 ชต.
7. แป้งสาลี 100 ก.
8. น้ำมันหอย 3 ชต.
9. น้ำปลา 1 ชต.
10. น้ำตาลทราย 1 ชช.
11. น้ำมันพืช 3 ชต.
12. น้ำมันปาล์ม 1 ลิตร (สำหรับทอดปู)

1. หั่นหอมใหญ่ พริกหวาน เป็นชิ้นขนาด 1 นิ้ว x 1นิ้ว สับกระเทียมและพริกไทยดำพอหยาบ หั่นท่อนต้นหอมและผ่าครึ่งปูนิ่ม
2. ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำปูนิ่มคลุกกับแป้งสาลีให้ทั่ว ทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันให้แห้ง
3. ตั้งกระทะให้ร้อน ผัดน้ำมัน กระเทียมและพริกไทยดำให้พอหอม เติมหอมใหญ่ พริกหวาน ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำปลา น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันและเติมปูนิ่มที่ทอดไว้แล้วลงผัดให้เข้ากัน เติมต้นหอมลงไปเป็นอย่างสุดท้าย ผัดต่ออีกซักครู่ พร้อมเสิร์ฟ

เชฟศุตม์

วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ครีมโคร็อกเกะไส้ปูอัด (Cream Korokke) 69 บาท



ครีม โคร็อกเกะพัฒนามาจาก โครเก็ต ของยุโรป เป็นครีมซอสขาวผสมผักรวม ใส่ไส้ปูอัด แล้วปั้นก้อนกลม ชุบแป้งทอดกรอบ รสชาติเข้มข้นหวานมัน กรอบนอกนุ่มใน

สูตรอาหารครีมโคร็อกเกะไส้ปูอัด (Cream Korokke)


ระยะเวลา 1 ชม. (ไม่รวมเวลาแช่เย็นครีม)
ประมาณ 12-16 ลูก (ขึ้นกับขนาดเล็กใหญ่)

เครื่องปรุงครีมโคร็อกเกะไส้ปูอัด (Cream Korokke)

1.เนื้อปูอัด (หั่นเป็นท่อนๆ) 4-5 แท่ง
2.หอมใหญ่ 1/4 ถ้วย
3.ผักรวม (ข้าวโพด ถั่วลันเตา แครอท) 1 ถ้วย
4.มันฝรั่ง (หั่นเต๋า-ต้มสุก) 1/2 ถ้วย
5.นมสด 1 1/2 ถ้วย
6.แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
7.เกลือ 1/4 ช้อนชา
8.พริกไทย 1/4 ช้อนชา
9.เนย 10 กรัม
10.ไข่ไก่ (ตอกใส่ชามคนให้แตกตัว ใส่น้ำเล็กน้อย) 1 ฟอง
11.แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
12.แป้งขนมปังชุบทอด 2-3 ถ้วย
13.น้ำมันสำหรับทอด
14.ซอสจิ้มสำหรับทงคัตสึ

วิธีทำครีมโคร็อกเกะไส้ปูอัด (Cream Korokke)

1. กะทะใส่เนย ตั้งไฟกลางพอเนยละลายใส่หอมใหญ่ ผัดพอสุก ใส่แป้งสาลี ผัดให้เข้ากัน จนแป้งออกสีน้ำตาล ค่อยๆ เทนมใส่ คนให้เข้ากัน ผักรวม (ข้าวโพด ถั่วลันเตา แครอท) มันฝรั่ง ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย หรี่ไฟอ่อน กวนจนน้ำเริ่มข้นเกาะตัวกัน ปิดไฟ เทใส่ภาชนะพักไว้ให้เย็นตัว ใช้ฟิลม์ถนอมอาหารปิดแล้วแช่เย็นเพื่อให้เซ็ทตัวประมาณ 20 – 30 นาที
2. นำครีมที่แช่แผ่ออก แล้วใส่ปูอัดตรงกลาง ห่อปั้นเป็นก้อนกลมๆ ชุปลงที่แป้งสาลี ชุปไข่ไก่ คลุกไปที่แป้งเกล็ดขนมปัง แช่เย็นไว้ 10 นาที นำไปทอดให้น้ำมันร้อน (ไฟกลาง) จนเหลืองกรอบ ตักสเด็ดน้ำมัน เสริฟกับผักสลัด

เชฟ...ศุตม์


ไข่ป่าม (อาหารเหนือ)


ของว่างเมนูนี้ที่หาทานได้ยากนอกจากเชียงใหม่หรือทางภาคเหนือของบ้านเรา ป่าม เป็นภาษาพื้นเมืองแปลว่า ปิ้ง เป็นอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือซึ่งทำจากไข่ไก่ปรุงรส ใส่ในกระทงใบตอง แล้วนำไปปิ้งบนไฟอ่อนจนกระทั่งสุกเหลือง มีลักษณะคล้ายไข่เจียวและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของใบตอง

สูตรอาหารไข่ป่าม (อาหารเหนือ)


สำหรับ 3-4 ที่
ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

วัตถุดิบไข่ป่าม (อาหารเหนือ)

1.ไข่ไก่ 3-5 ฟอง
2.ต้นหอม 4-5 ต้น
3.เกลือ 1/2 ช้อนชา 
4.มะเขือเทศ 1 ลูก
5.ใบตอง

วิธีทำไข่ป่าม (อาหารเหนือ)

1. ห่อใบตองตามคลิบรอไว้
2. ตอกไข่ใส่เกลือใส่มะเขือเทศตีพอเข้ากันดี ตักใส่ใบตองที่พับไว้ โรยหน้าด้วยต้นหอม นำไปย่างด้วยไฟอ่อนถึงกลางนิดๆ พอไข่สุกเกือบทั้งหมด กลับด้านเพื่อให้มีสีเหลืองจากการย่างอีกนิดหน่อยเป็นใช้ได้ 

ข้อแนะนำ

มะเขือเทศ หริกหยวก เห็ดไสล์ต ปูอัด ไส้กรอก หมูสับ กุ้งสับ 

ซีฟู้ดย่างซอสครีมวาซาบิ ราคา 89 บาท



สูตรอาหารซีฟู้ดย่างซอสครีมวาซาบิ


สำหรับ 1-2 ที่
เวลาในการทำ 20 นาที

วัตถุดิบ

ซอส

1. วาซาบิ 2 ช้อนโต๊ะ
2. วิปปิ้งครีม 50 กรัม
3. โชยุ 2 ช้อนโต๊ะ
4. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ
5. มิริน 2 ช้อนโต๊ะ
6. สาเก 2 ช้อนโต๊ะ
7. หอมใหญ่สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
8. พริกไทยเล็กน้อย

ซีฟู้ด

1. กุ้ง (ย่าง)
2. ปลาหมึก (ย่าง)
3. หอย (ย่าง)

วิธีทำซีฟู้ดย่างซอสครีมวาซาบิ

1. ซอส – ตีวิปครีมให้ขึ้นฟู แล้วใส่โยเกิร์ต วาซาบิ มิริน สาเก โชยุ คนให้เข้ากัน เตรียมไว้
2. นำกุ้ง ปลาหมึก หอย มาย่างบนกระทะให้สุก ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย เสิร์ฟพร้อมกับซอสครีมวาซาบิ และผักต่างๆ


เชฟศุตม์

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555


ครีมอันเป็นพื้นฐานสำคัญของขนมหวานสไตล์ยุโรปทั่วโลก แต่ใครจะรู้ว่า ลำพังตัวมันเองก็สามารถนำมาเสิร์ฟเป็นขนมจานอร่อยได้เช่นกัน ลองทำกันดูครับ อร่อยดี


สูตรเพสตรี้ครีม Pastry Cream


ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

วัตถุดิบเพสตรี้ครีม Pastry Cream

1. ไข่แดง 2 ฟอง
2. นมจืด 2 ถ้วย
3. เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาล 1 ถ้วย
5. วนิลาเข้มข้น 1 ช้อนชา
6. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเพสตรี้ครีม Pastry Cream

1. ต้มนมให้ร้อน
2. ตีไข่แดงกับน้ำตาลให้ขึ้นขาว ฟู จากนั้นลงวนิลาเข้มข้นลงไป ต่อด้วยแป้งข้าวโพด
3. เทนมที่ต้มไว้ลงมาตีทีละน้อย เพื่อไม่ให้ไข่สุก คนให้เข้ากัน จากนั้นเทกลับลงหม้อไปตีบนไฟอ่อนๆต่อ
4. ด้วยไฟอ่อนๆ ตีต่อไปเรื่อยๆจนมันเซ็ตตัวเป็นครีม จากนั้นก็ลงเนยตอนจบ
5. ตักลงภาชนะ แล้วเป่าหน้ามันด้วยเบิร์นเนอร์ให้ได้สีสวย ก็พร้อมเสิร์ฟแบบเบาๆแล้วครับ

ข้อแนะนำ

เวลาตั้งไฟตี พยายามตีให้ถึงก้นหม้อ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมไหม้ครับผม

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

มูสสตรอเบอร์รี่ Strawberry Mousse


มูสสตรอเบอร์รี่ Strawberry Mousse ของหวานติดอันดับต้นๆของความนิยม ยิ่งเป็นมูสสตรอเบอร์รี่ด้วยแล้ว สาวๆจะหลงรักขนมหวานตัวนี้กันทุกคน ด้วยความหวานอมเปรี้ยว นุ่มละมุนลิ้น และที่สำคัญขนมตัวนี้ทำง่ายมากๆ

ส่วนผสม
เวลาในการทำ 25 นาที

1.วิปปิ้งครีม 
2.แยมสตรอเบอร์รี่ 
3.แยมสตรอเบอร์รี่ (ตกแต่งถ้วย) 
4.สตรอเบอร์รี่สด 
5.ผงโกโก้ (ตกแต่งถ้วย) 


1.นำวิปปิ้งครีมเทใส่ชามผสม
2.ใส่แยมสตรอเบอร์รี่ลงไป ตีด้วยตะกร้อจนตั้งยอด (พักไว้)
3.หั่นสตรอเบอร์รี่สดตามชอบใส่ในแก้วที่เตรียมไว้
4.ใส่แยมสตรอเบอร์รี่ลงในแก้ว
5.นำไปแช่เย็น 5-10 นาที
6.เมื่อเย็น ตักมูสที่ผสมไว้ใส่ในแก้ว